วันศุกร์ที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

ระยะปลูกและวิธีการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับพริกยอดสนพันธุ์ใหม่

ศูนย์วิจัยพืชสวนศรีสะเกษ กรมวิชาการเกษตร ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์พริกขี้หนูยอดสน และจะได้มีการรับรองพันธุ์พริกพันธุ์ใหม่ แต่ยังขาดเทคโนโลยีบางส่วนที่จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรที่จะนำพันธุ์ไปใช้ เช่น ระยะปลูกที่เหมาะสม อัตราปุ๋ย และผลต่อเนื่องด้านโรคแมลงเมื่อการจัดการแตกต่างไป เกษตรกรที่ปลูกพริกเป็นการค้าในแหล่งปลูก จะใช้ระยะปลูก และจำนวนต้นต่อหลุมที่ รวมทั้งการใช้ปุ๋ยเคมีแตกต่างจากคำแนะนำในระบบเกษตรดีที่เหมาะสมสำหรับการผลิตพริก (GAP) ของกรมวิชาการเกษตร วัตถุประสงค์ของการทดลองนี้ เพื่อศึกษาระยะปลูกและวิธีการใช้ปุ๋ยที่ถูกต้องและเหมาะสม สำหรับพริกยอดสนพันธุ์ใหม่ที่จะออกเผยแพร่ ว่าจะสามารถแสดงศักยภาพในการให้ผลผลิตเต็มที่เพียงใด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจเลือกพริกพันธุ์ใหม่เพื่อปลูกในพื้นที่ของเกษตรกรต่อไป

วิธีการทดลอง

ปลูกพืช 3 แบบ คือ

1.ปลูกแบบแถวคู่ ระยะปลูก 40 x 50 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถวคู่ 100 เซนติเมตร

2.ปลูกแบบแถวเดี่ยว ระยะปลูก ระยะปลูก 40 X 40 เซนติเมตร ปลูก 4 แถวต่อแปลง

3.ปลูกแบบแถวเดี่ยว ระยะปลูก ระยะปลูก 50 x 100 เซนติเมตร เป็นวิธีเปรียบเทียบ

ใส่ปุ๋ย 3 วิธี คือ

1.ใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ (ตามเอกสาร การใช้ปุ๋ยเคมีอย่างมีประสิทธิภาพ กลุ่มวิจัยปฐพีวิทยา สำนักวิจัยพัฒนาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร กรมวิชาการเกษตร: ปี 2551 :53 หน้า)

2.ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ ทุก 20 วัน

3.ใส่สูตร 15-15-15 อัตราที่กรมวิชาการเกษตรแนะนำคือ 100 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งๆ ละ 50 กิโลกรัม หลังย้ายปลูก และก่อนออกดอก

การใส่ปุ๋ย

ตำรับที่ 1 การใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดิน อัตราตามคำแนะนำการใส่ปุ๋ยตามค่าวิเคราะห์ดินของพริก คือ ปริมาณอินทรียวัตถุ (OM) น้อยกว่า 1.5 เปอร์เซ็นต์ อัตราการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน (N) เท่ากับ 24 กิโลกรัมต่อไร่ ปริมาณฟอสฟอรัสในดิน มากกว่า 20 มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม การใส่อัตราปุ๋ยฟอสฟอรัส (P2O5) เท่ากับ 4 กิโลกรัมต่อไร่ ปริมาณโพแทสเซียมในดิน น้อยกว่า 60 การใส่อัตราปุ๋ยโพแทสเซียม (K2O) เท่ากับ 16 กิโลกรัมต่อไร่ (N- P2O5- K2O = 24-4-16 กิโลกรัมต่อไร่) ให้ปุ๋ยฟอสฟอรัส (P2O5) โดยการใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 18-46-0 เท่ากับ 8.7 กิโลกรัมต่อไร่ ซึ่งได้ ปุ๋ยไนโตรเจน (N) เท่ากับ 1.57 กิโลกรัมต่อไร่ ต้องการไนโตรเจน (N) เพิ่ม เท่ากับ 22.43 กิโลกรัมต่อไร่ โดยใช้ปุ๋ยยูเรีย อีก เท่ากับ 48.76 กิโลกรัมต่อไร่ และให้ปุ๋ยโพแทสเซียม (K2O) โดยใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 0-46-0 เท่ากับ 26.67 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งๆ โรยข้างแถว ครั้งแรก ใส่หลังย้ายปลูก 7 วัน และหลังจากใส่ครั้งแรก 30 วัน ปรับความเป็นกรดของดินโดยใช้ปูนโดโลไมท์ อัตรา 400 กิโลกรัมต่อไร่ (ชุมพล และคณะ, 2551)

ตำรับที่ 2 การใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 100 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งๆ ครั้งแรก ใส่รองก้นหลุม ครั้งที่สองเมื่อพริกเริ่มออกดอก หรือหลังย้ายปลูกประมาณ 30 วัน โดยโรยข้างแถว หลังจากนั้น ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 30 กิโลกรัมต่อไร่ ทุกๆ เดือน หรือประมาณ 4-5 ครั้ง ปรับความเป็นกรดของดินโดยใช้ปูนโดโลไมท์ อัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ (อุดมและคณะ, 2550)

ตำรับที่ 3 การใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตราที่กรมแนะนำคือ 100 กิโลกรัมต่อไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้งๆ ละ 50 กิโลกรัม โรยข้างแถว ครั้งแรกใส่หลังย้ายปลูก 7 วัน และ ครั้งที่ 2 ใส่เมื่อเริ่มออกดอก หรือหลังย้ายปลูกประมาณ 30 วัน ปรับความเป็นกรดของดินโดยใช้ปูนโดโลไมท์ อัตรา 200 กิโลกรัมต่อไร่ (ตามคำแนะนำในระบบเกษตรดีที่เหมาะสมสำหรับการผลิตพริก (GAP) ของกรมวิชาการเกษตร)

สรุปผลการทดลอง

การปลูกแบบแถวคู่ ระยะปลูก 40 x 50 เซนติเมตร ระยะระหว่างแถวคู่ 1 เมตร และใส่ปุ๋ยเคมีตามคำแนะนำในระบบเกษตรดีที่เหมาะสมสำหรับการผลิตพริก มีความเหมาะสมที่สุดในการปลูกพริกยอดสนศก.119-1-3 มีค่า BCR สูงสุด เท่ากับ 2.56 ซึ่งให้กำไรสูงสุด มีความสะดวกต่อการกำจัดวัชพืช และการเก็บเกี่ยวผลผลิต

ตารางที่ 1 องค์ประกอบผลผลิตพริกยอดสน

ระยะปลูก

ตำรับปุ๋ย

ผลกว้าง

(ซม.)

ผลยาว

(ซม.)

ก้านยาว (ซม.)

น้ำหนักสด

ต่อผล (กรัม)

น้ำหนักแห้ง

ต่อผล (กรัม)

น้ำหนักแห้ง(%)

เมล็ดต่อผล(เมล็ด)

40 x 50 ซม.

ระยะระหว่างแถวคู่ 100 ซม.

1

0.67

5.86

3.49

1.53

0.48

31.33

52.97

2

0.68

5.88

3.12

1.58

0.50

32.38

52.82

3

0.70

6.07

3.19

1.59

0.49

30.86

50.10

40 x 40 ซม.

ปลูก 4 แถวต่อแปลง

1

0.67

6.12

3.08

1.55

0.47

30.27

51.11

2

0.68

5.99

2.96

1.50

0.47

31.27

50.79

3

0.67

5.97

3.15

1.54

0.49

31.67

51.76

50 x 100 ซม.

ปลูกแถวเดี่ยว

1

0.67

6.07

3.24

1.55

0.50

31.76

53.04

2

0.67

5.92

3.19

1.54

0.49

31.82

53.25

3

0.67

5.86

3.16

1.48

0.48

32.71

51.55

CV (%)

2.91

2.76

8.18

3.33

5.90

6.29

5.14

ตารางที่ 2 การเจริญเติบโตและองค์ประกอบผลผลิตพริกยอดสน

ระยะปลูก

จำนวนกิ่งแขนง

(กิ่ง)

ทรงพุ่ม (ซม.)

ความสูง

(ซม.)

น้ำหนัก

เมล็ดต่อผล

(กรัม)

จำนวนผล

ต่อต้น

(ผล)

ผลผลิต

สดต่อต้น(กรัม)

ผลผลิตสด

ต่อไร่

(ตัน)

ผลผลิตแห้งต่อไร่

(ตัน)

ผลดี (%)

ผลเสีย (%)

40 x 50 ซม.

13.07 b

82.28 b

97.82

0.228 a

347.09 b

385.61 b

1.51

0.50

94.92 a

5.07 b

40 x 40 ซม.

12.18 c

80.45 b

97.92

0.216 b

241.14 c

274.65 c

1.57

0.49

93.77 b

6.23 a

50 x 100 ซม.

13.95 a

88.79 a

96.10

0.219 ab

446.21 a

466.54 a

1.43

0.46

94.89 a

5.10 b

ค่าความแตกต่าง

**

**

ns

*

**

**

ns

ns

*

*

ตำรับปุ๋ย

ตำรับที่ 1

13.10

84.93 a

97.65 a

0.221

358.77 a

387.86

1.54 a

0.48 ab

94.87

5.11

ตำรับที่ 2

12.95

81.15 b

94.22 b

0.222

316.91 b

356.41

1.39 b

0.44 b

94.75

5.25

ตำรับที่ 3

13.15

85.45 a

99.97 a

0.220

358.76 a

382.54

1.58 a

0.53 a

93.96

6.04

ค่าความแตกต่าง

ns

**

**

ns

*

ns

*

*

ns

ns

CV (%)

5.96

3.90

3.45

4.91

11.36

13.62

12.12

18.77

1.26

21.76

ตารางที่ 3 ผลตอบแทนการผลิตพริกยอดสน

ต้นทุนการผลิต

ระยะปลูก 40 x 50 (ซม.)

ระยะปลูก 40 X 40 (ซม.)

ระยะปลูก 50x100 (ซม.)

ตำรับ

ปุ๋ย 1

ตำรับ

ปุ๋ย 2

ตำรับ

ปุ๋ย 3

ตำรับ

ปุ๋ย 1

ตำรับ

ปุ๋ย 2

ตำรับ

ปุ๋ย 3

ตำรับ

ปุ๋ย 1

ตำรับ

ปุ๋ย 2

ตำรับ

ปุ๋ย 3

1. ผลผลิตพริกแห้ง (กิโลกรัมต่อไร่)

495

450

550

468

435

570

478

438

463

2. ต้นทุนผันแปร (บาท/ไร่)

16,616

19,967

17,183

17,958

21,489

19,230

15,468

18,894

14,985

3. ต้นทุน (บาท/กก.)

34

44

31

38

49

34

32

43

32

4. ราคาขาย (บาท/กก.)

80

80

80

80

80

80

80

80

80

5. รายได้ (บาท/ไร่)

39,600

36,000

44,000

37,440

34,800

45,600

38,240

35,040

37,040

6. ผลตอบแทน (บาท/ไร่)

22,984

16,033

26,817

19,482

13,311

26,370

22,772

16,146

22,055

7. ค่า BCR อัตราส่วนของรายได้/การลงทุน

2.38

1.80

2.56

2.08

1.62

2.37

2.47

1.85

2.47

Benefit Cost Ratio : BCR หมายถึง อัตราส่วนของรายได้ต่อค่าใช้จ่ายการลงทุน

BCR < 1 หมายถึง รายได้น้อยกว่ารายจ่าย กิจกรรมที่ดำเนินการนั้นขาดทุนไม่ควรทำการผลิต

BCR = 1 หมายถึง รายได้เท่ากับรายจ่าย กิจกรรมที่ดำเนินการนั้นไม่มีกำไรและไม่ขาดทุน มีความเสี่ยงในการผลิต

ไม่สมควรทำการผลิต

BCR > 1 หมายถึง รายได้มากกว่ารายจ่าย กิจกรรมที่ดำเนินการนั้นมีกำไร มีความเสี่ยงน้อย สามารถทำการผลิตได้

ผู้ดำเนินการทดลอง จิรภา ออสติน และเสาวนี เขตสกุล


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น